วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

บะหมี่ซี่โครงหมู



ส่วนผสม

  1. ซี่โครงหมู 350 กรัม
  2. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  3. เต้าซี่ 1 1/2 ช้อนชา
  4. ซีอิ้วดำหวาน 1 ช้อนชา
  5. น้ำซุป 1 1/2 ถ้วยตวง
  6. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
  7. เกลือป่น 1/2 - 1 ช้อนชา
  8. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  9. ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
  10. แป้งข้าวโพด (ละลายน้ำเปล่าเล็กน้อย) 3 ช้อนชา
  11. น้ำัมันงา 1 1/2 ช้อนชา
  12. บะหมี่ 300 กรัม
  13. ยอดคะน้า (ลวกผัดน้ำมันงา) 200 กรัม
  14. น้ำเปล่า
  15. น้ำมันพืช
วิธีทำ
  1. ล้างซี่โครงหมูใส่หม้อ ใส่น้ำเปล่าต้มไฟแรงพอเดือด หรี่ไฟลงเคี่ยวจนซี่โครงหมูเปื่อย ตักขึ้นพักไว้
  2. เจียวกระเทียมและเต้าซี่ในน้ำมันพืชจนเหลืองหอม ใส่ซี่โครงหมูที่ต้มไว้ลงผัดและใส่ซีอิ้วดำหวาน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือป่น พริกไทยป่น ซอสหอยนางรม และน้ำซุป
  3. พอเดือดใส่แป้งข้าวโพดคนพอข้น ยกขึ้นพักไว้
  4. ลวกเส้นบะหมี่สะบัดให้แห้งคลุกน้ำมันงาพักไว้
  5. จัดเส้นบะหมี่ใส่จานวางยอดคะน้าลวกผัดน้ำมันงา ตักซี่โครงหมูราด

บัวหิมะผัดกุ้ง



ส่วนผสม

  1. บัวหิมะสด 150 กรัม
  2. กุ้งสด 100 กรัม
  3. เนื้อหมูสันในหั่นชิ้น 50 กรัม
  4. เห็ดหอมสด 5-7 ดอก
  5. กระเทียมสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  7. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา
  8. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำซุป 1 ช้อนโต๊ะ
  10. น่ำมันพืชสำหรับผัด
  11. พริกไทบป่น
  12. ผักชี
วิธีทำ
  1. กุ้งสดปอกเปลือกเหลือหางไว้ ผ่าหลังดึงเส้นดำออก
  2. บัวหิมะปอกเปลือกหั่นชิ้นตามขนาดต้องการ แช่น้ำเพื่อไม่ให้ดำ
  3. เจียวกระเทียมกับน้ำมันพืชให้เหลือง ใส่เนื้อหมู กุ้งสดผัดพอสุก ใส่บัวหิมะ เห็ดหอม ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว และน้ำตาลทราย เิติมน้ำซุปพอเดือดทั่ว ชิมรส ตักใส่จานโรยด้วยพริกไทยป่นและผักชี จัดเสิร์ฟ

ต้มขาหมูกับน้ำลำไยสด



ส่วนผสม

  1. ขาหมู 200 กรัม
  2. ลำไยแกะเมล็ดออก 300 กรัม
  3. พริกไทยเม็ด 2 ช้อนชา
  4. รากผักชีหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  5. กระเทียมหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา
  7. ซีอิ้วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำเปล่า 5 ถ้วยตวง
  9. น้ำมันพืช
  10. ผักชี
วิธีทำ
  1. ล้างขาหมูให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นใหญ่พอคำ
  2. โขลกพริกไทย กระเทียม รากผักชีให้ละเอียด นำไปเจียวกับน้ำมันพืชให้เหลือง ใส่เกลืิอป่น ซีอิ้วขาวผัดพอเข้ากัน ตักใส่หม้อเติมน้ำเปล่ายกขึ้นตักไฟ เคี่ยวไฟอ่อนจนขาหมูเปื่อยนุ่ม ใส่ลำไย พอเดือดชิมรสตามชอบ ตักใส่ชามโรยด้วยผักชี จัดเสิร์ฟร้อนๆ

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

แก้ปัญหาเส้นผมติดหมากฝรั่ง



เด็กๆหลายคนชอบเล่นซุกซน ยิ่งเวลาเคี้ยวหมากฝรั่งแล้วชอบเอามาติดผมคนอื่น ทีนี้ละ...ต้องแก้ปัญหาด้วยการตัดผมปอยนั้นออก ซึ่งจริงๆแล้วมีทางแก้ไขไม่ยาก โดยนำสำลีชุบน้ำมันพืชให้ชุ่ม จากนั้นนำมาเช็ดตรงเส้นผมที่หมากฝรั่งติด พร้อมกับขยี้หมากฝรั่งนั้นไปด้วย ยางหมากฝรั่งก็จะละลายเร็วขึ้น ที่นี้ก็ค่อยนำเจ้าตัวน้อยไปสระผมทำความสะอาดตามปกติอีกครั้ง

น้ำพริกมะม่วง


ส่วนผสม

  1. มะม่วงเปรี้ยว 1 ผล
  2. กะปิ 20 กรัม
  3. กุ้งสดลวกหั่นชิ้น 50 กรัม
  4. กระเทียม 5 กรัม
  5. พริกขี้หนู 20 กรัม
  6. หัวกะทิสด 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาลปี๊บ 25 กรัม
  9. น้ำปลา 1 ช้อนชา
  10. ผักจิ้มได้แก่ ผัดสดต่างๆ เช่น แตงกวา มะเขือต่างๆ ถั่วฝักยาว ถั่วพู ผักกาดขาว หรือผักต้ม ผักอทดก็ได้
วิธีทำ
  1. ล้างมะม่วงปอกเปลือกสับเป็นเส้น
  2. โขลกกระเทียมให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกให้เข้ากัน ใส่พริกขี้หนูมะม่วงสับโขลกพอกัน ใส่กุ้ง ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำปลา หัวกะทิ ชิมรส ตักใส่ถ้วยตกแต่งให้สวยงาม รับประทานกับผักสด ผักต้มหรือผักทอดตามชอบ

แกงป่าแห้งปลากระพงไก่ฉีก




สูตรสำหรับ 3 ที่

ส่วนผสม
  1. น้ำพริกแกงป่า 2 ช้อนโต๊ะ
  2. ยอดมะพร้าวหั่นชิ้นขนาดพอคำ 1 ถ้วยตวง
  3. เนื้อปลากระพงสดหั่นชิ้น 150 กรัม
  4. อกไก่ต้มสุกฉีกเป็นเส้นใหญ่ๆ 100 กรัม
  5. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
  6. มะเขือเปราะผ่าแปดซีก 1 ผล
  7. มะเขือพวง 10 ผล
  8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  9. เกลือป่น (ไทย) 1/2 ช้อนชา
  10. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  11. ใบกระเพราเด็ดใบ 1/2 ถ้วยตวง
  12. พริกชี้ฟ้าสีเขียวและสีแดงหั่นแฉลบ 2 เม็ด
  13. ใบมะกรูดฉีกชิ้นใหญ่ๆ 4 ใบ
  14. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมน้ำพริกแกงป่า
  1. พริกขี้หนูแห้ง 10 กรัม
  2. พริกขี้หนูสวน 30 กรัม
  3. ข่าแก่ซอย 1 ช้อนชา
  4. ตะไคร้ซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  5. ผิวมะกรูด พริกไทยอ่อน รากผักชี อย่างละ 1/2 ช้อนชา
  6. ดอกกะเพราแดง 1 ช้อนชา
  7. ขิงแก่ซอย 1 ช้อนชา
  8. กระเทียมไทย 12 กลีบ
  9. หอมแดงขนาดกลางซอย 1 หัว
  10. กะปิ 2 ช้อนชา
วิธีทำ
  1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงป่าให้ละเอียดเข้ากันดี
  2. ใส่น้ำพริกในกระทะรอจนร้อน ผัดน้ำพริกแกงผ่าด้วยไฟกลางพอหอม ใส่ยอดมะพร้าว มะเขือพวง และมะเขือเปราะผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำปลา น้ำตาลทราย เติมน้ำปลาแล้วผัดส่วนผสมให้เข้ากันดี
  3. ค่อยๆวางชิ้นเนื้อปลา และเนื้อไก่ลงไปในกระทะ ปิดฝานาน 2-3 นาที เปิดฝาแล้วค่อยๆคนให้เข้ากัน
  4. ใส่ใบกระเพรา ใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้า ผัดเร็วๆ ตักใส่จานให้สวยงาม เสิร์ฟคู่กับข้าวซ้อมมือหุงใหม่ๆ

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

บาร์บีคิวหมูตะไคร้สด


สูตรสำหรับ 3 ที่

ส่วนผสม
  1. หมูสันคอหั่นเป็นชิ้นบาง 500 กรัม
  2. รากผักชีล้างสะอาด 2 ราก
  3. กระเทียมไทย 8 กลีบ
  4. พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนชา
  5. ตะไคร้ซอยบางๆ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ขมิ้นสดหั่นฝอย 1/2 ช้อนชา
  8. เกลือป่น (ไทย) 2 ช้อนชา
  9. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  10. กระทิ UHT 1/2 ถ้วยตวง
  11. สับปะรดหั่นชิ้นใหญ่ 20 ชิ้น
  12. หอมใหญ่หั่นชิ้นใหญ่ 20 ชิ้น
  13. เห็ดออรินจิหรือเห็ดฟางหั่นแว่น 20 ชิ้น
  14. มะเขือเทศราชินี 20 ลูก
  15. ไม้เสียบบาร์บีคิว
วิธีทำ
  1. คลุกเคล้าเนื้อหมู่กับเกลือป่นให้เหนียว พักไว้ในตู้เย็น
  2. โขลกกระเทียม พริกไทย ตระไคร้ ขมิ้น รากผีกชีเข้าด้วยกันให้ละอียด นำไปเคล้าเนื้อหมูที่พักไว้ ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำตาลทรายและกระทิ คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ในตู่้เย็น 30 นาที
  3. เสียบหมูสลับกับสับปะรด หอมใหญ่ และเห็ด เว้นปลายไม้เอาไว้สำหรับเสียบมะเขือเทศ
  4. ปิ้งบาร์บีคิวจนสุก ระหว่างการปิ้งให้นำน้ำหมักที่เหลือมาทาเพื่อเพิ่มรสชาติ
  5. ย่างจนให้สุก เสียบมะเือเทศแล้วย่างต่อจนมะเขือเทศสุก (ถ้าเสียบพร้อมกันตั้งแต่ต้น มะเขือเทศอาจจะสุกก่อนและร่วงออกจากไม้)

ยำสำราญพล


สูตรสำหรับ 3 ที่

ส่วนผสม
  1. ชมพูหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าพอดีคำ 1/2 ถ้วยตวง
  2. แอปเปิลสีเขียวหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
  3. สับปะรดดิบหั่นิ้นสี่เหลี่ยมลกเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
  4. ฝรั่งเอาแต่เนื้อหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
  5. ส้มโอแกะชิ้นพอดีคำ 1/2 ถ้วยตวง
  6. กุ้งทะเลต้มสุก 10 ตัว
  7. วุ้นเส้น ตรวหงษ์ แช่น้ำพอนุ่ม (ลวกสุกตัดเป็นท่อนสั้น) 1 ถ้วยตวง
  8. กุ้งแห้งเค็มน้อย (นำมาทอดแล้วบบด้วยครกหยาบๆ) 2/3 ถ้วยตวง
  9. ตะไคร้ซอบบางๆ 2 ต้น
ส่วนผสมน้ำยำ
  1. กระทิ UHT 1/2 ถ้วยตวง
  2. น้ำพริกเผาแบบเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำปลา 1 1/2 ถ้วยตวง
  4. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำตาลทะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
  6. นมข้นจืด 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
  1. ต้มกระทิและน้ำคาลมะพร้าวในหม้อด้วยไฟกลาง พอส่วนผสมร้อนให้ยกลง ผสมกับน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว และนมข้นจืด คนให้เข้ากัน
  2. ตักน้ำยำที่ได้ลงในจาน ใส่วุ้นเส้น ตามด้วยผลไม้ต่างๆ ตามชอบและกุ้งต้มคลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยตะไตร้ กุ้งแห้งทอด และผักชีก่อนเสิร์ฟ

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

สปาเกตตีนมสดราดซอส



ส่วนผสม

  1. เส้นสปาเกตตี 100 กรัม
  2. นมสด 1 1/4 ถ้วยตวง
  3. ปลาทู่น่าในน้ำมัน 1/2 กระป๋อง
  4. เกลือป่น
  5. พริกไทยป่น
  6. พาร์สเลย์สับ
  7. น้ำเปล่า
วิธีทำ
  1. ตั้งน้ำเปล่าพอเดือด ใส่เส้นสปาเกตตีลงต้มประมาณ 3 นาที ตักออกใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
  2. ต้มนมสดพอเริ่มร้อน ใส่สปาเกตตีลงต้มโดยใช้ไฟอ่อนประมาณ 10 นาที หรือต้มจนเส้นสุกนุ่ม ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทยป่น
  3. โรยพาร์สเลย์สับและปลาทูน่า จัดใส่จานราดด้วยซอสมะเขือเทศปรุงรส จัดเสิร์ฟ
ส่วนผสมซอสมะเขือเทศปรุงรส
  1. หอมใหญ่สับ 1/2 หัว
  2. มะเขือเทศ 5 ลูก
  3. ซอสมะเขือเทศ ตราภูเขาทอง 1/2 ถ้วยตวง
  4. เนยสดชนิดเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ
  5. นมสด 1/4 ถ้วยตวง
  6. เกลือป่นเล็กน้อย
  7. พริกไทยป่นเล็กน้อย
  8. พาร์สเลย์
วิธีทำ
  1. ล้างมะเขือเทศให้สะอาด บากตรงส่วนหัวและก้น นำลงต้มในน้ำเดือดพอเปลือกปริให้ตักขึ้น ลอกเปลือกและเมล็ดออกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  2. ตั้งกระทะใส่เนยสดพอร้อน ใส่หอมใหญ่ลงผัดจนสุก มีลักษณ์ใส ใส่มะเขือเทศ ปรุงรศด้วยซอสมะเขือเทศตราภูเขาทอง ตามด้วยเกลือป่น พริกไทยป่น ผัดให้มีลักษณะข้น เติมนมสดและพาร์สเลย์

ขนมจีนซาวน้ำ



ส่วนผสม

  1. ขนมจีน 100 กรัม
  2. กุ้งแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  3. กระเทียมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  4. ขิงอ่อนซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกขี้หนูซอย 2-3 เม็ด
  6. หัวกระทิ 1 ถ้วยตวง
  7. กุ้งสด 5 ตัว
  8. สับปะรดหั่นชิ้น 1/2 ถ้วยตวง
  9. น้ำปลา
  10. น้ำตาลทราย
  11. น้ำมะนาว
  12. แคร์รอตซอย
  13. ดอกอัญชัญ
วิธีืำำทำ
  1. กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออกแล้วลวกจนสุก
  2. ต้มหัวกระทิให้เดือด ขณะต้มคนกระทิอย่าให้ลูก
  3. จัดขนมจีนใส่จาน วางเคียงด้วยส่วนผสมต่างๆให้สวยงาม เพิ่มสีสันด้วยดอกอัญชัญ แคร์รอต ตามชอบ ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำปลา น้ำตาลทรายและน้ำมะนาว

ผัดกระเทียมโทน



ส่วนผสม

  1. แปะก๊วยต้มสุก 1/4 ถ้วยตวง
  2. เมล็ดถั่วลันเตา 1/4 ถ้วยตวง
  3. เกาลัด 1/4 ถ้วยตวง
  4. เห็ดหอมสดดอกเล็ก 1/4 ถ้วยตวง
  5. กระเทียมโทน 1/4 ถ้วยตวง
  6. กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลัง 5 ตัว
  7. สันในไก่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 1/4 ถ้วยตวง
  8. กระเทียบสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ซอสหอยนางรม 1 1/2
  10. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา
  11. ซอสปรุงรส ตราเด็กสมบูรณ์ 1 ช้อนชา
  12. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  13. น้ำมันงา 1 ช้อนชา
  14. น้ำซุป 1 ช้อนชา
  15. แป้งมันสำปะหลังละลายน้ำเปล่าเล็กน้อย
  16. น้ำมันพืช
  17. เกลือป่น
  18. พริกไทยป่น
  19. แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป
วิธีทำ
  1. โรยเกลือป่น พริกไทบป่น บนกุ้งและสั่นในไก่ คลุกแป้งทอดกรอบสำเร็จรูป นำลงทอดในน้ำมันพืชร้อนไฟปานกลางจนสุกเหลือง ตุกขึ้นพักไว้
  2. เจียวกระเทียมสับกับน้ำมันพืชพอเหลือง ใส่แปะก๊วย เมล็ดถั่วลัดเตา เกาลัด กระเทียมโทน เห็ดหอม ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ซอสหอยนางรมและซอสปรุงรสตราเด็กสมบูรณ์ ตามด้วยน้ำตาลทราย น้ำมันงา เติมน้ำซุป ผัดพอเข้ากันใส่กุ้งและสันในไก่ที่ทอดไว้ เติมแป้งมันสำปะหลัง คนจนแป้งสุกมีลักษณะข้นเล็กน้อย ตักใส่จานรอยพริกไทยป่นจัดเสิร์ฟ

หมูลวกกระเทียม



ส่วนผสม
  1. สันในหมู 150-200 กรัม
  2. กระเทียมสับ 1/4 ถ้วยตวง
  3. พริกขี้หนูสวนซอย 10-15 เม็ด
  4. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  6. ใบสะระแหน่, ผักสลัดสำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
  1. สันหมูในหั่นตามขวางลวกพอสุก ตัดใส่จาน
  2. ผสมกระเทียมสับ พริกขี้หนู น้ำปลา น้ำมะนาว คนให้เข้ากันตักราดบนเนื้อหมูที่เตรียมไว้ ตกแต่งด้วยผักสลัดและใบสละแหน่

น้ำขิงร็อคเลมอล


เครื่องดื่มกระตุ้นการตื่นตัว ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้า คุณลุงคุณป้าต่างชอบใจ เพราะช่วยเปลี่ยนระหว่างวันให้กลับมามีชีวิตชีวาได้


ส่วนผสม

  1. เครื่องดื่มขิงผงสำเร็จรูป ตราโคจิน (ปราศจากน้ำตาล ขนาด 5 กรัม) 2 ซอง
  2. น้ำร้อน 150 มิลลิลิตร
  3. น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำเชื่อมสำเร็จรูป 55 เปอร์เซ็น 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำเลมอน 4 ช้อนชา
  6. โซดา 2/3 ถ้วยตวง
  7. น้ำแข็ง
  8. เลมอนและใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง
วิธีืทำ
  1. ชงเครื่องดื่มขิง ตราโคจิน กับน้ำร้อนคนให้ละลาย
  2. ผสมเครื่องดื่มขิงที่ชงไว้กับน้ำผึ้ง น้ำเชื่อมและเลมอน คนให้เข้ากัน
  3. ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว ตามด้วยเครื่องดื่มที่ลงไว้ในข้อที่ 2 เททับอีกชั้นด้วยโซดา ตกแต่งด้วยเลมอนและใบสระระแหน่ เสิร์ฟทันที


บานาน่าสมูทตี้ที


หวานๆเย็นๆ สีสันสดใส ดื่มแล้วแสนจะสดชื่น จนบรรดาคุณหนูๆ ต่างยกให้เป็นแก้วโปรด

ส่วนผสม

  1. ชาเย็นปรุงสำเร็จชนิดผง ตราคูซ่า (ขนาด 35 กรัม) 1 ซอง
  2. น้ำร้อน 60 มิลิลิตร
  3. น้ำเชื่อมสำเร็จรูป 55 เปอร์เซ็น 2 ช้อนโต๊ะ
  4. กล้วยหอม 1/2 ลูก
  5. น้ำแข็ง 1 แก้ว
  6. วิปปิ้งครีม กล้วยหอม น้ำตาลคาราเมล สำหรับตกแต่ง
วิธีืำทำ
  1. ชงชาเย็น ตราคูซ่า กับน้ำร้อนให้ละลาย
  2. ใส่น้ำแข็งลงในโถ่ปั้น เติมชา ตราคูซ่า ที่ได้ชงไว้ ตามด้วยน้ำเชื่อมและกล้วยหอม ปั่นจนส่วนผสมละเอียด เทใส่แก้ว
  3. ตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีม กล้วยหอม และน้ำทันคาราเมล เสิร์ฟทันที

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ไวต์ช็อกโกแลตคอฟฟี่



เติมพลังยามเช้าให้คุณพ่อคุณแม่ด้วยกาแฟถ้วยโปรด รสเข็ม เต็มพิกัด ที่ไม่ว่าจะยกดื่มทีไรก็ช่วยให้กระัฉับกระเฉงทุกครั้ง

ส่วนผสม
  1. กาแฟปรุงสำเร็จตราโคคอฟริช (ขนาด 18 กรัม) 1 ซอง
  2. น้ำร้อน 50 มิลิลิตร
  3. ไวต์ช็อกโกแลตซอส 3 ช้อนโต๊ะ
  4. วิปปิ้งครีม
  5. เครื่องดื่มรสโกโก้ปรุงสำเร็จชนิดผง ตราโคเลตต์ สำหรับโรย
วิธีืำทำ
  1. ชงกาแฟปรุงสำเร็จตราโคคอฟริช กับน้ำร้อนคนให้ละลายเข้ากัน
  2. เทไวต์ช็อกโกแลตซอสลงในแก้ว ตามด้วยส่วนผสมกาแฟที่ชงไว้
  3. บีบวิปปิ้งครีมเป็นชั้นสุดท้ายให้สวยงาม โดยผงรสโกโก้ ตราโคเลตต์
ส่วนผสมไวต์ช็อกโกแลต
  1. ไวต์ช็อกโกแลตสับ 100 กรัม
  2. นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
  3. วิปครีม 2 ช้อนโต๊ะ
  4. เนยสดชนิดเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
  1. ต้มนมสด วิปครีม และนยสดรวมกันพอร้อน ระวังอย่าให้เดือด เทใส่ในไวต์ช็อกโกแลตคนให้ละลายเข้ากัน พักไว้พออุ่น

งีบหลังอาหาร เติมพลังงานให้สมอง



รู้ไหมว่า...การงีบหลังรับประมานอาหารกลางวันนั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจเสมอไป เพราะมีบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างประเทศบางบริษัท ส่งเสริมให้พนักงานพักผ่อนยามบ่าย ด้วยการเจียดพื้นที่ออฟฟิศมาทำเป็นห้องให้พนักงานงีบหลับ เพราะนี้ถือเป็นยาขนานเอกแก้ง่วงได้ดี โดยวิธีนี้ถือเป็นการหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง

โดยมีการระบุว่าการงีบช่วงระยะสั้นๆ ประมาณ 10-20 นาที สามารถแก้ปัญหาง่วงนอนหลังกินอาหารได้ดี และยังเป็นการเติมพลังให้สมองไปในตัวอีกด้วย แถวยังช่วยให้มีชีวิตยืนยาวขึนอีกด้วย แต่ต้องมีข้อแม้ว่าต้องไม่ลืมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ด้วยข้างกาย เพราะไม่อย่างนั้นจะเผลอยาวจนเสียเวลางานได้

ปลาหมึกผัดกระเทียมพริกขี้หนูกับข้าวผัดกระเทียม



ส่วนผสม

  1. ปลาหมึกกล้วยหั่นแว่น 250 กรัม
  2. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  3. พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  4. ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
  5. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา
  6. น้ำตาลทราย 1/4 ช้อนชา
  7. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง
  8. ผักชีสำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
  1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่เนื้อปลาหมึกทอดพอเนื้อปลาหมึกตึงตัวหรือสุกประมาณ 50 เปอร์เซ็น ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  2. รินน้ำัมันในกระทะออกให้เหลือ 2 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟต่อพอร้อนใส่กระเทียมลงผัดพอหอม ใส่พริกขี้หนูผัดต่อจนกระเทียมและพริกขี้หนูเริ่มเหลือง ใส่ปลาหมึกลงผัดให้เข้ากัน
  3. ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ้วขาว และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟตักใส่ชาม โดยด้วยผักชีทานคู่กับข้าวผัดกระเทียม
ส่วนผสมข้าวผัดกระเทียม
  1. ข้าวสวย 2 ถ้วยตวง
  2. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  3. โชยุ(ซีอิ้วญี่ปุ่น) 1 ช้อนโต๊ะ
  4. เนยสดชนิดเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ
  5. กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ต้นหอมซอยพอประมาณ
วิธีทำ
  1. ตั้งกระทะใส่นยสดพอละลาย ตามด้วยกระเทียมสับ ผัดพอเหลืองหอม
  2. ใส่้าวสวยลงผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยโชยุ ผัดให้เข้ากันดี ปิดไฟโรงกระเทียมเจียวและต้นหอมผัดให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟทันที

พริกไทยช่วยลดอุบัติเหตุ



มีรายงานจากประเทศจีนว่า ตำรวจทางหลวงที่นั้นได้หาพริกไทยมาเก็บไว้เพื่อแจกจ่ายกับคนขับรถที่ผ่านไปมาตามปั้มน้ำมันต่างๆ เพราะความเชื่อดั้งเดิมของคนจีน บอกว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ผู้คนมักจะง่วงเหงาหาวนอนกันมาก ดังนั้นการบริโภคพริกไทยจึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยเรื่องนี้ได้ เพราะแม้แต่กลิ่นพริกไทย ก็ยังทำให้ผู้ขับรถรู้สึกค่อยยังชั่วขึ้น รู้สึกตื่นตัวขึ้น ยิ่งเส้นทางหลวงสายต่างๆในจีน ที่ได้ชื่อว่าเป็นทางหลวงที่อันตรายที่สุดในโลก เนื่องจากยวดยานที่คับคั่ง และคนขับที่ไม่คำนึงถึงสัญญาณจราจรเท่าที่ควร การมีกลิ่นหรืออาหารที่สามารถกระตุ้นให้รู้สึกตัวตลอดจึงเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุได้

แกงส้มปลาเก๋ากระเทียมโทนดอง



ส่วนผสม

  1. ปลาเก๋าหั่นขวาง 500 กรัม
  2. กระเทียมโทนดองกรองให้สะเด็ดน้ำ 150 กรัม
  3. ยอดมะพร้าวอ่อนหั่นชิ้นพอคำ 100 กรัม
  4. น้ำพริกแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
  6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมะขาวเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
วิธีืำทำ
  1. ละลายน้ำพริกแกงส้มกับน้ำเปล่าให้เข้ากันดี นำไปตั้งไฟให้เดือด ใส่ปลาเก๋า กดชิ้นปลาเบาๆพอจมน้ำ รอจนเนื้อปลาสุก ใส่ยิดมะพร้าวอ่อนและกระเทียมโทนดอง
  2. พอยอดมะพร้าวอ่อนสุก ใส่ใบมะกรูด ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะขาวเปียก คนให้ทั่วชิมรส ตักเสิร์ฟทันที

ปลาอบกระเทียม



ส่วนผสม

  1. ปลากระพง (น้ำหนัก 500 กรัม) 1 ตัว
  2. กระเทียมหั่นขวางทั้งหัว 10 หัว
  3. ข่าหั่นแว่น 5 แว่น
  4. ตะไคร้ซอย 2 ต้น
  5. ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
  6. หอมแดงปอกเปลือกบุบพอแตก 8-10 หัว
  7. พริกขี้หนูหั่นแฉลบ 3 เม็ด
  8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำซุป 2 ช้อนโต๊ะ
  10. เกลือป่นเล็กน้อย
  11. พริกไทยดำบดหยาบเล็กน้อย
  12. น้ำมันพืชเล็กน้อย
วิธีทำ
  1. แล่ปลากระพงเอาแต่เนื้อ หั่นเป็นชิ้นใหญ่พักไว้
  2. ผสมน้ำปลากับน้ำซุปคนให้เข้ากัน ตักราดบนเนื้อปลาให้ทั่วหมักไว้ประมาณ 10 นาที
  3. แบ่งข่า ตระไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง และพริกขี้หนูเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งวางในถาดที่จะใช้อบ แล้ววางเนื้อปลากระพง วางข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง และพริกขี้หนูที่เหลือราดด้วยน้ำจากการหมักปลา
  4. ทาน้ำมันพืชบางๆบนกระเทียม โรยด้วยเกลือป่นและพริกไทยดำเล็กน้อย นำไปวางในถาดปลากระพง นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที หรือจนสุก นำออกจากเต้าอบจัดเสิร์ฟร้อนๆ

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ส้มตำกระเทียมไก่ย่าง





ส่วนผสม
  1. ใบกระเทียมหั่นทอน 50 กรัม
  2. มะละกอขูดเป็นเส้น 50 กรัม
  3. พริกขี้หนู 6-7 เม็ด
  4. กระเทียมไทย 5 กลีบ
  5. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  8. กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  10. มะเขือเทศสีดาผ่าสี่ 2 ลูก
วิธีืำทำ
  1. โขลกพริกขี้หนูกับกระเทียมพอหยาบ ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำปลา คนเข้าด้วยกัน
  2. เติมกุ้มแห้ง ถั่วลิสงแห้ง มะเขือเทศ มะละกอ และใบกระเทียม คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟคู่กับไก่ย่าง
ส่วนผสมไก่ย่าง
  1. สะโพกไก่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 400 กรัม
  2. รากผักชี 3 ราก
  3. กระเทียมไทย 7 กลีบ
  4. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
  5. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  8. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  9. ซีอิ้วดำหวาน 1/2 ช้อนชา
  10. กระเทียมไทยโขลกหยสบ 2 ช้อยโต๊ะ
  11. ไม้ปลายแหลม
วิธีืทำ
  1. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยให้ละเอียด
  2. ผสมซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย เกลือป่น ซีอิ้วดำหวาน กระเทียมโขลกหยาบ และส่วนผสมที่โขลกไว้คนให้เข้ากันใส่สะโพกไก่ลงคลุกเคล้าให้ทั่ว หมักไว้ประมาณ 30 นาที จึงนำไปเสียบไม้ แล้วนำไแย่างด้วยไฟอ่อนจนสุกดี รับประทานร้อนๆคู่กับส้มตำใบกระเทียม

ระวังอันตรายจากหมูกระทะ



กรมควบคุม เตือนให้ผู้บริโภคระวังการกินเนื้อหมุดิบ เลือดหมูดิบ ป่วยเป็นโรคไข้หูดับ เพราะผู้บริโภคบางคนนำเลือดหมูสดๆ มาราดบนเนื้อหมูสดก่อนกิน รวมไปถถึงการกินหมูกระทะ หมุ่จุ่ม เพราะเชื้อสเตรปโตค็อกคัส ซูอีส จะอยู่บริเวณจมูก คอ หรือต่อมทอมซิลของหมู ซึ่งการฆ่าหมู่มักแทงที่คอ ดังนั้นเลือดจะไหลผ่านคอหมูทำให้เนื้อหมูปนเปื้อนเชื้อโรค โดยโรคนี้สามารถติดต่อได้ 2 ทางคือ 1. การกินหมูดิบ ทั้งเนื้อ เครื่องในและเลือด 2. การสัมผัสกับเนื้อหมูที่ติดเชื้อ รวมทั้งเนื้อหมู เครื่องในหมู และเลือดหมูที่เป็นโรค

คนที่ได้รับเชื้อนี้ 1-3 วัน จะมีอาการเยื้อหุ้มสมองอักเสบ มีไข้สูง ปวดศีรษะ อาเจียน บางรายไม่รู้สึกตัว ชักกระตุก เป้นอัมพาต บางรายอาจมีเยื้อบุหัวใจ ปอดอักเสบ สายตาพร่ามัว อาจหูหนวกถาวร และมีโอกาสเสียชีวิตร้อยละ 30

ดังนั้นจึงฝากเตือนผู้บริโภคว่า การกินเนื้อหมู เลือดหมู เครื่องในหมู ต้องทำให้สุกก่อนถึงจะดีที่สุด จึงจะปลอดภัยจากโรคนี้

โอเมก้า 3 ต้านโรคเหงือก




ผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ด ทำการศึกษาวิจัยและสำรวจกลุ่มตัวอย่างกว่าหมื่นคน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป พบว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 ที่พบมากในปลาทะเล เช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาน้ำจืดบางชนิด ถั่ว เมล็ดพืช วอลนัท เป็นต้น ช่วยป้องกันโรคเหงือกได้หากบริโภคเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะร้อยละ 30 ของคนที่บริโภคโอเมก้า 3 ไม่ป่วยเป็นโรคเหงือก แต่ก็ไม่ควรบริโภคมากเกินไปเพราะจะไม่เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะเด็กับผู้หญิงควรบริโภคอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จะส่งผลดีต่อสภาพร่างกาย ซึ่งโดยรวมแล้วจะช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยในการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาทด้วย

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

คุกกี้ครีมโกโก้สมูทตี้



คุกกี้ครีมโกโก้สมูทตี้ เครื่องดื่มดับร้อนขวัญใจวัยรุ่น ด้วยรสชาติเข้มเต็มแก้ว ได้ดื่มทีไรก็ให้ความรู้สีกสดชื่น สดใสและช่วยดับกระหายคลายร้อนได้อย่างดี

ส่วนผสม
  1. เครื่องดื่มรสโกโก้ปรุงสำเร็จชนิดผง ตราโคเลตต์ (ขนาด 30 กรัม) 2 ซอง
  2. น้ำร้อน 70 มิลิลิตร
  3. คุกกี้รสช็อกโกแลต 2 ชิ้น
  4. นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำแข็ง 1 แก้ว
  6. วิปปิ้งครีม
  7. เครื่องดื่มรสโกโก้ปรุงสำเร็จชนิดผง ตราโคเลตต์ สำหรับโรยตกแต่ง

วิธีทำ
  1. ชงเครื่องดื่มรสโกโก้ปรุงสำเร็จชนิดผง ตราโคเลตต์ กับน้ำร้อนคนให้ละลายเข้ากัน
  2. ใส่น้ำแข็งลงในโถ่ปั่น ตามด้วยเครื่องดื่มรสโกโก้ปรุงสำเร็จชนิดผง ตราโคเลตต์ ที่ชงไว้และใส่นมข้นหวาน ปั่นจนส่วนผสมละเอียดเนียน
  3. ใส่คุกกี้รสช็อกโกแลต ปั่นสักครู่พอเข้ากันแล้วเทใส่แก้ว บีบวิปปิ้งครีมแล้วโรยด้วย เครื่องดื่มรสโกโก้ปรุงสำเร็จชนิดผง ตราโคเลตต์ เสิร์ฟทันที


ดื่มนมดับกลิ่นกระเทียมได้อยู่หมัด


นักวิทยาศาสตร์ประเทศสหรัฐอเมริกา ค้นพบข้อมูลที่น่ายินดีอย่างยิ่งว่าการดื่มนมเพียงเล็กน้อย ประมาณ 200 ซี.ซี. ช่วยดับกลิ่นกระเทียมดิบหรือสุกที่ตกค้างอยู่ในปากได้ดีแม้ไม่ต้องแปลงฟัน โดยกลิ่นของสารประกอบต่างๆ ที่มีอยู่ในกระเทียม เช่น อัลลิล เมทิล ซัลไฟด์ ซึ่งกระเพาะไม่อาจย่อยได้หมด จนปล่อยกลิ่นระเหยออกมาตามลมหายใจและเหงื่อ แต่ทั้งหมดทั้งมวลสามารถลดลงได้ เพียงแค่ดื่มนมที่อุดมด้วยไขมันพร้อมกับสารอาหาร (ได้ผลดีกว่าตอนหลังกินอาหารเสร็จ) กลิ่นกระเทียมก็จะหมดลงได้

เวลาไหนไม่ควรกินกระเทียม


รู้หรือไม่ว่า....เมื่อเรานำกระเทียมมาปรุงอาหารโดยผ่านความร้อน เช่น การเจียว การต้ม จะทำให้คุณค่าในการเป็นยารักษาโรคลดลง ดังนั้นหากต้องการให้ได้สารอาหารจากกระเทียมเช่นเดิม ควรเพิ่มปริมาณการกินมากกว่าเดิม ส่วนคนที่เป็นดรคกระเพาะหรือท้องว่าง ต้องระวังอย่ากินกระเทียมเพราะจะทำให้ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารตลอดจนเมื่อเกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ ควรเลี่ยงการกินกระเทียมระหว่างนี้